There are no coincidences in the universe.

Solitary Animal: Happiness Note

Wednesday, March 29, 2006

Happiness Note

ไปอ่านคอลัมน์นึงใน IMAGE เล่มล่าสุด (หน้าปกโย ยศวดี กะแฟนหนุ่ม โจ๋งครึ้มอีกแล้วคับท่าน)

ชื่อคอลัมน์ "ฉันมองเห็นความสุข" ชอบมากๆ เลย

ก็เลยคัดมาให้อ่านกัน :)

22 Comments:

Blogger solitary animal said...

ฉันมองเห็นความสุข
เรื่อง : นวล ศุภวานิช

ปีนี้ได้รับการ์ดอวยพรจากน้องที่สนิทกัน เขาเขียนว่า "ขอให้พี่มองเห็นความสุข" ฉันชอบมากเพราะว่าถ้าเรามองไม่เห็นความสุข (มีอยู่เกลื่อนกลาดดาษดา) ชีวิตมันคงจะเฉา แห้งแล้งเหมือนต้นไม้ขาดน้ำ เลยได้คุยกับตัวเองอีกยกหนึ่ง แล้วก็สรุปแบบไม่ค่อยเข้าข้างตัวเองว่า ฉันมองเห็นความสุขอบู่ทุกวันแล้วนี่ เพื่อยืนยันกับตัวเอง จึงลงมือบันทึกรายการความสุขมาได้ดังนี้--

Thursday, March 30, 2006 7:17:00 AM  
Blogger solitary animal said...

1. แค่ได้ตืนเช้ากว่าปกติ ได้มีโอกาสไปเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้าน ก่อนวงล้อแห่งการงานจะเริ่มหมุน นี่ก็สุขแล้ว แอบเชื่อว่าถ้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความรู้สึกดีๆ กระปี้กระเปร่า วันนั้นทั้งวันก็จะดีไปด้วย



ขอแทรก - จริงๆๆ เห็นด้วย เราเองก็เป็นคนชอบเสพความสดชื่นของรุ่งอรุณ เชื่อมั๊ย วันนี้เรารู้สึกตัวตอนตี 4 ครึ่ง เพราะได้ยินเสียงฝนตก สักพักได้กลิ่นดินจางๆ ลอยมาเตะจมูก รู้สึกดีจัง เรายังไม่ลุกจากที่นอนแต่นึกถึงใครบางคนที่ผูกพัน เลยส่งข้อความ (sms) ไปหา นอนฟังเสียงฝนตกแล้วนึกดีใจที่ฝนตก เพราะต้นไม้ใบหญ้าในบ้านคงชุ่มฉ่ำดีเมื่อได้ฝน ต้นไม้ใหญ่ในบ้านตอนนี้กำลังผลิดอกพอดี เช่น อินทนิลน้ำ หางนกยูง คูน ฯลฯ

ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน ลงไปข้างล่าง ทำซุปมิโซะ ลวกไส้กรอก นั่งดูรายการโลกยามเช้าของอาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล เป็นอีกรายการนึงที่เราชอบดูมาก วันก่อนเราเพิ่งกดไปเจออีกรายการน่าสนใจ ที่มีอาจารย์ยิ่งศักดิ์ กับผู้ชายอีกคนเป็นพิธีกร ชื่อรายการ "ปากคลองตลาด" อะไรซักอย่างนี่แหละ เฮฮาดี วันนี้ตั้งใจจะเปลี่ยนไปดูเหมือนกัน ปรากฏว่าดูรายการโลกยามเช้าไปได้ซักพัก ทีวีก็ดูไม่ได้ low signal จน no signal เราก็เลยอดดู แต่ไม่เป็นไร จัดการอาหารเช้าเสร็จพอดี ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว สบายใจเฉิบ!

Note: วันนี้ 30 มี.ค. ครบรอบวันที่ฝรั่งคนนึงเค้าคิดเอายางลบมาติดที่ปลายดินสอด้วยล่ะ (ดูจากรายการโลกยามเช้าอ่ะ) ประมาณ 100 กว่าปีแล้วล่ะ

Thursday, March 30, 2006 7:38:00 AM  
Blogger solitary animal said...

2. มีโอกาสใช้มือทำงานที่ไม่ต้องคิดมาก เช่น ลากสายยางไปรดน้ำต้นไม้รอบๆ บ้าน ลอกสมุดโทรศัพท์เล่มใหม่ (ไม่ชอบบันทึกเบอร์โทรใส่มือถือ) ช่วยล้างจานกองโตโดยไม่แอบบ่นในใจ ขนรองเท้าออกมาปัดฝุ่นและขัดให้เงางาม ล้างห้องน้ำ มันเป้นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก เวลาที่ได้เห็นห้องน้ำสะอาดเอี่ยมพื้นแห้งสนิทด้วยฝีมือตัวเอง ไม่เชื่อต้องลองดูเอง


:)

Thursday, March 30, 2006 7:43:00 AM  
Blogger solitary animal said...

3. ได้ทำอาหารกินเองซักมื้อในหนึ่งวัน สำหรับฉัน การทำอาหารก็เหมือนทำงานศิลปะอย่างหนึ่ง การหยอบจับโน่นผสมนี่ เติมนั่นอีกนิด สำหรับฉันมันคือการเยียวยาชีวิตชั้นดี มันช่างผ่อนคลาย ยิ่งถ้ามีคนมาช่วยกินด้วยและชื่นชมในรสชาติด้วยแล้ว นั่นเป็นความสุขชั้นพิเศษสำหรับฉัน


เสริม: ใครมีวิธีทำอาหารเมนูเด็ดๆ อะไร แนะนำกันบ้างเด้อ สำหรับเราขึ้นโต๊ะที่สุดก็ ซุปมิโซะ นั่นเอง รองมาก็มีแต่เมนูเชยๆ เช่น ไข่ต้ม เต้าหู้ปลาลวก มาม่าอนุพันธุ์ :)

Thursday, March 30, 2006 7:54:00 AM  
Blogger solitary animal said...

เดี๋ยวเบรคกลางวันจะมาต่อ!

Thursday, March 30, 2006 7:57:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

hm....น่าสนใจดีนะ อยากให้มีสวนสาธารณะใกล้ๆบ้านหรือที่ทำงานบ้าง เราชอบสวนลุมพินีมากที่สุดเลยเพราะมีสีสันดีโดยเฉพาะฤดูหนาวที่มีดนตรีในสวน ส่วนสวนหลวง ร.9ก็ดีตรงมันโปร่ง กว้าง อากาศดี แถมมีเขาวงกตเล็กๆด้วย เพื่อนๆ ชอบไปสวนไหนกันบ้าง

blue sea

Thursday, March 30, 2006 9:14:00 AM  
Blogger solitary animal said...

สวัสดีค่ะ คุณ blue sea

เราชอบไปสวนหลวงร.9 อ่ะ คือเมื่อก่อนนี้ 1-2 ปี เราไปแทบทุกเสาร์อาทิตย์เลย ไปเดินๆ วิ่งๆ ตอนเช้า (พาแม่ไปด้วย)ใช่แล้ว มันโปร่ง กว้าง อากาศดี สดชื่น ช่วงนี้เราไม่ได้ไปมา 3-4 เดือนแล้วล่ะ เพราะอะไรก็ไม่รู้สิ

ที่สวนลุมฯ เราก็ชอบไปตอนมีดนตรีในสวนเหมือนกัน ทำเป็นเล่นไป เราอาจจะเคยเดินกระทบไหล่กันก็ได้นะ คุณ blue sea :)

สมัยนึง ช่วงที่เราเครซี่ someone of the opposite sex เราชอบไปสวนพุทธมณฑลด้วยล่ะ เพราะบ้านเค้าอยู่แถวปิ่นเกล้า (ฮ่าๆๆ) อืมม แต่มันก็ผ่านมานานแล้วล่ะ (ทั้งสวนสามพราน, สวนวังสราญรมย์ เดินจนปรุเลย แต่บ้านตัวเองอ่ะอยู่คนละทิศเลย ฮิฮิ)

Thursday, March 30, 2006 12:09:00 PM  
Blogger solitary animal said...

ต่อค่ะ

4. เปิดใจรับฟังคนอื่น เกือบทุกวันสายโทรศัพท์ของฉันมีอันต้องเปิดรับฟังความอัดอั้นตันใจ ความทุกข์ ความไม่สบายใจของคนอื่น และอีกสารพัด ใช่ว่าฉันจะเป็นศิรานวลที่สามารถแก้ปัญหาได้เก่งฉกาจหรอกนะ เจ้าของปัญหาต่างหากที่ต้องลงมือแก้ปัญหาเอง ฉันเพียงแค่แบ่งเวลา "ฟัง" โดยที่ไม่เอาตัวเองเข้าไปพัวพัน เวลาที่เรานึกถึงหัวใจคนอื่น ได้ทำอะไรให้คนอื่น มันจะมีกระแสของความปิติเอิบอาบไปทั่ว (แต่ต้องหมั่นระวังอย่าให้ไปเสริมตัวตนให้พองหนา)

Thursday, March 30, 2006 12:18:00 PM  
Blogger solitary animal said...

5. ทำงานเติมจิตวิญญาณ ทุกวันนี้ทำงานได้เงินเลี้ยงชีพ อิ่มท้องและอิ่มใจในระดับหนึ่ง แต่จิตวิญญาณมันไม่ค่อยจะเต็ม ฉันเลยต้องมีก๊อกสอง แบ่งเวลาไปช่วยงานมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ได้ใช้ทั้งแรงกาย แรงสมอง เหนื่อยแต่ก็สนุกและมีความสุขมากๆ ต้นปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสแวบออกไปเติมอาหารจิตวิญญาณมาเกือบ 2 อาทิตย์ (โชคดีอีกเหมือนกันที่เพื่อนร่วมงานน่ารักและเข้าใจ) แถมพอกลับมาทำงานปกติก็รู้สึกเหมือนแบตเตอรี่เต็มปรี่ล้นทะลัก ทำงานคึกคักแข็งขันขึ้นกว่าเดิมอีกแน่ะ

Thursday, March 30, 2006 12:23:00 PM  
Blogger solitary animal said...

6. สุขใจจากเรื่องเล็กๆ เช่น เจ้าหมาที่ที่ทำงานเดินไปส่งเวลาจะข้ามถนน ได้ยินเสียงหัวเราะใสๆ ของเพื่อนร่วมงาน ฟังเพื่อนเล่าเรื่องขำๆ ของลูกหลานตัวเอง ไม่โมโหเวลาเดียวกับที่เพื่อนโมโห ได้พูดจาไพเราะเสนาะหูกับคนที่รัก (ว้าว ชอบข้อนี้จัง) ฯลฯ

Thursday, March 30, 2006 12:25:00 PM  
Blogger solitary animal said...

ย้อนกลับไปดูลิสต์ข้างบนแสนจะธรรมดา ไม่ต้องอาศัยบุญวาสนาแต่อย่างใด ขอแค่ให้ได้ใช้หัวทั้งสาม คือ หัวใจ หัวสมอง และหัวแม่มือ ให้เหมาะเจาะ ไม่หนักไป ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง เวลาที่ใช้หัวไหนนำชีวิตมากไปหน่อย ชีวิตมันจะเอียงกะเท่เร่ออกอาการไม่ปกติสุข ก็จะรู้ได้เอง ไม่ต้องให้ใครมาบอก...อ่านแล้วลองลิสต์รายการความสุขของคุณดูบ้างก็ได้

แล้วจะพบว่าที่บ่นๆ ว่าไม่มีความสุขนั้น ไม่จริงใช่ไหมคะ ***

Thursday, March 30, 2006 12:30:00 PM  
Blogger solitary animal said...

จบแล้วจ้า!

ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมองเห็นความสุขที่มีอยู่มากมายรอบๆ ตัวเรา บางทีมันอาจจะเกิดจากสิ่งละอันพันละน้อยที่เรามองข้ามไปในชีวิตประจำวันก็ได้นะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันบ้างล่ะ นะๆ


love & share!
solitary animal

Thursday, March 30, 2006 12:41:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

แวะมาอ่าน ... พลางนึกถึง มิโซะ ร้อนๆที่ เจ้าของบ้านนำมาเสริฟในยามเช้า ... :)

October Comrade...

Thursday, March 30, 2006 2:26:00 PM  
Blogger solitary animal said...

นึกถึงบทกลอนของมหากวีนิวเอจ--

อันว่าซุปมิโซะ
ใครได้ลองเป็นโป๊ะ(เช๊ะ)
เชิญท่านเอามาวางบนโต๊ะ
จะขอลองให้โช๊ะเด๊ะ


:)

Thursday, March 30, 2006 5:32:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

God bless you all

ยินดีคุณสาวโซมีสิ่งดี ๆ มาแบ่งปันอยู่เสมอ

ps.ยิ่งใหญ่จริง ๆ มหากวีองค์นี้ สัมผัสสุดยอด ความหมายเด็ดขาด ความงามถึงขั้น แฝงสัจจะแห่งจักรวาลไว้ในความสี่บรรทัด ...ถามจริง ๆ เหอะคุณมหากวี นายเป็นพระเจ้าอวตารมาโปรดมนุษย์หรือป่าววะ

Friday, March 31, 2006 1:29:00 PM  
Blogger solitary animal said...

โอ้ พระเจ้า ต้องเป็นนายแน่ๆ เลย ;)

Friday, March 31, 2006 3:23:00 PM  
Blogger usa said...

Thanks for the happiness note, always, encouraging. For me, just walking out and see sunshine, I'm happy. :)

Saturday, April 01, 2006 2:55:00 AM  
Blogger solitary animal said...

Hello Usa-san, you're welcome! Me too, I love ordinary-ordinary moment, like MOMENTORDINAIRE ;)

take care & best wishes ka!

Saturday, April 01, 2006 9:09:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

ชมสวน

เดินชมสวนพฤกษานานาพันธ์
ปลูกร่วมกันมากมีที่ได้เห็น
มีดอกดวงพราวพร่างต่างต่างเป็น
ลมเย็นเย็นพัดโชยโรยละออง
กลิ่นดอกไม้อบอวนชวนชื่นจิต
หลากชนิดชื่นใจฤทัยผอง
แสนรื่นรมย์ชมชื่นตื่นตามอง
ชื่นใจปองในจิตติดตราตรึง
โน่นต้นแก้วดอกขาวราวกระดาษ
ชมมะนาดเคียงชิดติดพลับพลึง
กระดังงาหอมหวนชวนคำนึง
งามซาบซึ้งพุทธรักษาประดามี
ราชพฤกษ์สีเหลืองเรืองอร่าม
พุดซ้อนงามขาวผ่องต้องแสงสี
การะเกดยี่สุ่นกรุ่นกลิ่นดี
สารภีนางแย้มแกมชงโค
รสสุคนธ์จันทร์กระพร้อช่อลัดดา
กรรนิกาพู่ระหงปรงยี่โถ
มะลิลาพุดตานดอกบานโต
ชูช่อโชว์ชวนชื่นให้ยืนชม
กุหลาบงามหลากสีมีประดับ
งามระยิบระยับช่วยให้สวยสม
ดอกแดงเหลืองชมพูขาวคราวลู่ลม
น่าชื่นชมเอนไหวอยู่ไปมา
เหมือนวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์
ที่ตัวฉันฝันถึงคนึงหา
ในดวงจิตสมถวิลจินตนา
ยามได้มาชื่นชมสมหทัย

ผู้แต่ง : Vinitaya

โอย...อยากมีสวนสาธารณะสวยๆใกล้ๆบ้านจังเลย คิดถึงบรรยากาศในสวนหลังฝนตก ถึงจะเฉอะแฉะหน่อยแต่มัชุ่มช่ำดีจัง มีใครชอบเหมือนเรามั้ย

blue sea

Monday, April 03, 2006 10:08:00 AM  
Blogger solitary animal said...

ไม่รู้ K.Vinitaya ไปได้แรงบันดาลใจจากสวนแถวไหนมาเนอะ ถึงได้แต่งกลอนออกมาได้ไพเราเพราะพริ้งเช่นนั้น :)

ช่วงนี้เพื่อนๆ สังเกตมั๊ย หลังจากฝนตกเมื่อ 2-3 วันก่อน ตอนนี้เวลามองไปตามถนนหนทาง ต้นไม้ดูร่าเริง อวดใบเขียวสะอาดไม่มีฝุ่นเกรอะกรัง เห็นแล้วร่มรื่น+ชวนให้สบายตาดีจัง แล้วก็เป็นฤดูที่พันธุ์ไม้ใหญ่ๆ หลายพันธุ์ผลิดอกในช่วงนี้ด้วย ที่เห็นเยอะๆ ก็ต้นประดู่ ตะแบก คูน ชมพูพันทิพ (เขียนยังงี้ป่าวน้อ)ชอบจัง Spring is blooming!

ปล. ขอยกมือเห็นด้วยกับคุณ blue sea ค่ะ ถึงจะเฉอะแฉะแต่ก็ชุ่มฉ่ำดี ใช่ๆๆ

Monday, April 03, 2006 12:22:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

Great site loved it alot, will come back and visit again.
»

Saturday, May 27, 2006 9:23:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

This site is one of the best I have ever seen, wish I had one like this.
»

Saturday, May 27, 2006 10:00:00 AM  

Post a Comment

<< Home

Gabu on Facebook