There are no coincidences in the universe.

Solitary Animal: Action!

Tuesday, March 21, 2006

Action!


โพสต์รูปนังอ้วนให้เบื่อกันไปข้างนึงเลยย...

16 Comments:

Blogger solitary animal said...

เอามาฝาก...


การแทรกแซงของพระเจ้า
ที่มา : มานาประจำวัน
วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549

อ่าน ลูกา 10 : 29 -37


ชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางลงไปยังเมืองเยรีโคและได้พบชาวยิวคนหนึ่งนอนบาดเจ็บอยู่ข้างทาง คนอื่นๆ รีบเดินผ่านไป เพราะมัวแต่ยุ่งกับธุระของตนจนไม่อยากจะถูกขัดจังหวะ

แต่ชาวสะมาเรียที่คนยิวเกลียดนักเกลียดหนาเกิดเดินทางผ่านมาและ “มีใจเมตตา” เขา เอาผ้าพันบาด แผลให้ แล้วให้เขาขึ้นขี่สัตว์ของตนเองพามาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง และรักษาพยาบาลเขาไว้ (ลก.10: 33-34)

แผนการของพระเจ้ามาถึงเราในแบบแปลกๆ มักจะมาในรูปแบบของเรื่องแทรก ยกตัวอย่างเช่น เราคิดว่าหน้าที่ประจำวันของเราเสร็จสิ้นลงแล้วและเรากำลังนั่งพักอยู่ในบ้านตอนเย็นๆ แต่แล้วก็มีโทรศัพท์มาหรือไม่ก็มายืนที่หน้าประตูบ้าน ถามว่า “คุณกำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า”

ก่อนอื่น เราต้องไม่มองว่าเรื่องแทรกนี้เป็นการขัดจังหวะ แต่ให้ถือว่าเป็นโอกาสที่พระเจ้าประทานเพื่อให้เรารับใช้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการรับฟัง การแสดงความรัก การช่วยให้คนอื่นเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น

นักเขียนคริสเตียนในยุคแรก ชื่อ ฌอง ปิแอร์ เดอ คอสสาด บอกไว้ว่า “ความรักคือหน้าที่ของปัจจุบัน” ไม่ว่าเราจะวางแผนอะไร ความรักคือหน้าที่ของเรา

“ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า” ผมถาม พระเยซูทรงตอบว่า “คนขัดสนที่เราส่งมาหาเจ้า” –DHR


หากวันนี้วุ่นวายและสับสน งานทวมท้นทับถมจมเก้าอี้
ใช้เวลามีค่าทุกนาที จึงไม่มีเวลาให้ใครมาเยือน
ถึงกระนั้นหากใครมาพบปะ ขอให้ฉันอย่าละความเป็นเพื่อน
ขอพระเจ้าจะทรงโปรดช่วยเตือน อย่าแชเชือนฉวยโอกาสแสดงน้ำใจ – sper

สิ่งที่เกิดแทรกขึ้นมา อาจเป็นการนัดพบของพระเจ้า

Tuesday, March 21, 2006 10:58:00 AM  
Blogger solitary animal said...

ชวนไปฟังเพลงหวานๆ
หวานมากๆ เลย
อย่าเพิ่งเลี่ยนกันก่อนล่ะ


http://www.romanticgals.net/wboard/viewthread.php?tid=7994


Knowing you're beside me,

I'm alright.

Please don't let this feeling end

It might not come again

and I want to remember...

Tuesday, March 21, 2006 12:39:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

such a romance song in spring time after long winter, isn't it?

blue sea

Tuesday, March 21, 2006 1:12:00 PM  
Blogger solitary animal said...

denifinitely romantic and absolutely poetic words from you! K.(indigo) blue sea :)



ถึงแม้ว่าความรักของมนุษย์เราที่มีให้กันนั้นอาจจะไม่สมบูรณ์นัก แต่ทว่า...ก็มีพลังอานุภาพในการรักษาเยียวยาและประคองอุ้มชูกัน ว่ามั้ยๆ?

เฮ้อ (เธอ!)

Tuesday, March 21, 2006 8:38:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

พูดถึงเรื่อง romance and poem นึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาทันที มันโดนใจนัก

Longer ของ Dan Fogelberg

Longer than there've been fishes in the ocean
Higher than any bird ever flew
Longer than there've been stars up in the heavens
I've been in love with you

นานยิ่งกว่ามัจฉาว่ายในวารี
สูงยิ่งกว่าสุดชีวีวิหคเหิน
นานกว่าดาวเด่นบนฟ้านภาเพลิน
นานเหลือเกินที่ฉันนั้นมีรัก

Stronger than any mountain cathedral
Truer than any tree ever grew
Deeper than any forest primeval
I am in love with you

แกร่งเท่าแกร่งแข็งกว่าภูผาไหน
จริงยิ่งกว่าพฤกษ์เติบใหญ่ให้ประจักษ์
ลึกสุดลึกยิ่งกว่าป่าลึกนัก
รักสุดรักเก็บเธอไว้ในกมล

I'll bring fire in the winters
You'll send showers in the springs
We'll fly through the falls and summers
With love on our wings

ฉันจะเป็นเชื้อไฟในยามหนาว
ใบไม้ผลิเธอจะพราวเป็นสายฝน
ใบไม้ร่วงเราจะไปกันสองคน
ด้วยปีกรักเราผ่านพ้นจนร้อนคลาย

Through the years as the fire starts to mellow
Burning lines in the book of our lives
Though the binding cracks and the pages start to yellow
I'll be in love with you
I'll be in love with you

จากเพลิงเริ่มเผาไหม้จนใกล้มอด
จวบชีวิตผ่านตลอดถึงจุดหมาย
จากวันแรกผ่านพ้นจนวันวาย
จวบชีวีต้องมลายจะรักเธอ

I am in love with you…

blue sea

Wednesday, March 22, 2006 9:02:00 AM  
Blogger solitary animal said...

ใช่ๆ เพลงนี้เราก็ชอบเช่นกันล่ะ คุณบลูซี
ขอบคุณมากๆ ที่นำมาแบ่งปันค่ะ (ไม่ได้ฟังนานแล้ว)

เพลงนี้ซึ้งมากจนไม่รู้จะพรรณนาอะไรต่อเลย คุณบลูซี :)

ที่สำคัญ อยากบอกว่าผู้แปลสามารถถ่ายทอดเป็นภาษาไทยได้งดงามยิ่งนัก (you?)

ด้วยจิตคารวะ

ปล1. ขอแนะนำหนังใหม่ล่าสุดเพิ่งเข้าโรงฉาย เรื่อง the tiger and the snow พระเอกเป็นครูสอนกวี น่ารักดี แถมเพลงประกอบ 'You Can Never Hold Back Spring' ก็เพราะมากๆ ฟังแล้วเคลิ้มชะมัด

ปล2. ยังไม่ได้ฟัง the sand and the foam ของ Dan Fogelberg เลยอ่ะ

Wednesday, March 22, 2006 1:23:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

เราคงไม่สามารถถ่ายทอดเป็นความเป็นกลอนภาษาไทยได้ไพเราะขนาดนั้น ได้มาจากไหนจำไม่ได้แล้ว เก็บไว้ในกรุนานมากแล้ว อ่านทีไรก็ยังซาบซึ้ง
สำหรับหนังจะลองไปดูซักครั้ง ว่าแต่จู่ๆก็นึกถึงหนังเรื่องautumn in Newyork ที่ริชารต์ เกียร์เล่นได้ดีที่สุดว่ามั้ย?

blue sea

Wednesday, March 22, 2006 3:07:00 PM  
Blogger solitary animal said...

จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้วสิ รู้สึกว่าไม่ได้ไปดูในโรงมั้ง แต่คงเคยผ่านตาใน ubc บ้าง (ผู้หญิงคือวิโนน่า ไรเดอร์ ใบปิดสวยๆ ใช่ป่าว?)

พอคุณบลูซีพูดถึง autumn in NY เราก็เลยนึกไปถึง autumn in my heart ละครเกาหลีที่โด่งดัง (เสียน้ำตาไปหลายลิตร) แล้วก็พาลนึกไปถึงหนังเกาหลีของผู้กำกับที่เราชอบ (เฮอ จิน โฮ)อีกด้วยล่ะ อันได้แก่ christmas in august & one fine spring day

แต่เรื่องล่าสุด april snow เรากลับไม่รู้สึกซาบซึ้งเท่าไร แต่ดูแล้วผู้กำกับคนนี้ คงเป็นผู้ชายที่ละเมียดละไมและผูกพันกับฤดูกาลจริงๆ นะเออ!

Wednesday, March 22, 2006 6:08:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

ใช่แล้วละ นักแสดงนำหญิงคือ Winona Ryder
ยังจำคำโฆษณา (tag line)ของเรื่องนี้ได้มั้ย
He fell in love for the first time... she fell in love forever.


He taught her how to live. She taught him how to love.

เราไม่ค่อยได้ดูหนังเกาหลีบ่อยนักยกเว้นบางเรื่องที่เพื่อนหลายๆคนแนะนำ อย่าง อิลมาเร่ (แปลว่าบ้านริมทะเล ใช่มั้ย?) ซึ่งน่าประทับใจดี
หนังเกาหลีนั้นทำได้ดีเกินหน้าเอเซียด้วยกันทีเดียว ว่าแต่เดี๋ยวจะลองไปดู The Tiger and the Snow (Italian film?)ที่คุณSA แนะนำ

blue sea

Thursday, March 23, 2006 9:28:00 AM  
Blogger solitary animal said...

ขอให้คุณ blue sea และทุกท่าน (หากมีโอกาส)ได้ดู The tiger and the snow อย่างมีความสุขจ้า ถ้าดูแล้ว ยังไง รบกวนมาแชร์กันด้วยเน้อ ตอนนี้เข้าที่สยามพารากอน ส่วน dvd ไม่แน่ใจว่ามีขายรึยัง

@ มีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก @

1. หนังดำเนินเรื่องท่ามกลางสงครามในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก แต่ฉากในเรื่องถ่ายทำในประเทศตูนิเซีย

2. พระเอกในหนังเป็นครูสอนกวีชื่อ Attilio ซึ่งเป็นการรำลึกและอุทิศแด่นักกวี นักเขียน นักแปลชื่อดัง Attilio Bertolucci

3. มีบทกวีไพเราะหลากหลายถูกนำมากล่าวถึงในหนังเรื่องนี้

4. พอดูหนังเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่า 'อูฐ' เป็นสัตว์ที่น่ารักจังเลยอ่ะ

:)

Thursday, March 23, 2006 12:09:00 PM  
Blogger solitary animal said...

คุณ blue sea

เมื่อเช้าอ่านหนังสือพิมพ์ เลยเช็คโปรแกรมหนังดู ปรากฏว่าไม่เห็น the tiger and the snow แล้วค่ะ ทำไมออกไวจังก็ไม่รู้ สงสัยต้องหาดูจาก dvd แล้วล่ะ

เราดูเสาร์ที่แล้ว คนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ทั้งโรงมีซัก 20 กว่าชีวิตเห็นจะได้

Friday, March 24, 2006 8:47:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

คงเป็นเพราะหนังที่ไม่อยู่ในกลุ่มที่คนทั่วไปนิยม DVD คงหาไม่ง่ายนัก หวังว่าUBCจะเอามาลงในปีนี้ เฮ้อน่าจะมีTV on demand หรือ pay per viewซะที เราไม่ค่อยชอบไปโรงหนังนักหรอก หรือเราเริ่มแก่ไปแล้วเนี่ย..

blue sea

Friday, March 24, 2006 11:20:00 AM  
Blogger solitary animal said...

เรากลับชอบไปดูหนังที่โรงนะ โดยเฉพาะรอบ 10 โมงเช้าที่ผู้คนเค้ายังไม่ตื่นกัน ถ้าไปดูที่สยาม ลิโด้ สกาล่าก็ได้ส่วนลด 20 บาทด้วย เหลือ 80 บาทเท่านั้น นับว่าเป็นความบันเทิงราคาประหยัดดีทีเดียวล่ะ

Friday, March 24, 2006 12:13:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

ข้าพเจ้าก็ชอบดูที่โรงที่นั่นตอนเช้าเหมียนกัน
ราคาย่อมเยาว์ แล้วที่นั่งนิ่มดี
โรงแบบว่า คลาสิก

HAVE A NICE DAY!!

Wednesday, April 05, 2006 3:53:00 PM  
Blogger solitary animal said...

คุณ etc. หายไปหนายยยยยมาาาาาาาา

คิดถึงงงงงง...นะ

;)

Wednesday, April 05, 2006 4:28:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

I really enjoyed looking at your site, I found it very helpful indeed, keep up the good work.
»

Saturday, May 27, 2006 9:23:00 AM  

Post a Comment

<< Home

Gabu on Facebook