There are no coincidences in the universe.
Existing, living, or going without others; alone
View my complete profile
posted by solitary animal @ 1:02 PM
ที่มา : เนชั่นสุดสัปดาห์ปีที่ 13 ฉบับที่ 614 วันที่ 1 - 7 มี.ค. 2547บันทึกจากข้างบาททาง / รอน แรมทาง ความศรัทธา, ความเชื่อ, และความงมงาย...'ศรัทธา'... - คือการเลื่อมใสเชื่อถือ......'ความเชื่อ'... - คือการเห็นด้วยอย่างปราศจากข้อกังขา......'ความงมงาย'... - คือการหลงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล...และบ่อยครั้งที่... ความศรัทธา, ความเชื่อ, และความงมงาย . . . . ก็รวมตัวกันเข้าสิงอยู่ในจิตใจผู้คน!!!......ความจริง ไอ้วัน 'วาเลนไทน์' มันก็ล่วงเลยไปตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว - - กระนั้น ผมยังขัดข้องใจไม่หาย!ย้อนความรู้สึกกลับไปสองสามวันก่อนหน้าจะถึงวันซึ่งอุปโลกน์กันว่าเป็น 'วันแห่งความรัก' - - ข่าวรายวันด้านหนึ่ง ก็เสนอเกี่ยวกับเรื่องในทำนองว่าจะป้องกันคุมเข้มเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวไม่ให้ 'สำแดงแสดงความรัก' กันเลยเถิดจนถึงขั้นเสพสมได้เสียกัน!, แต่ข่าวรายวันในเวลาไล่เลี่ยติดกัน ก็เสนอข่าวและมีการโฆษณาถึงการจัดงาน 'วันวาเลนไทน์' ซึ่งหลายสิบงาน จัดโดยหน่วยราชการระดับจังหวัดเกือบทั่วประเทศ!!!มันอะไรกัน!?!?!และยังมีเรื่องข่าว 'ตรีมูรติ' เข้ามาเกี่ยวข้องกับ 'วันแห่งความรัก' อีกข่าวหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกสงสัยหนักยิ่งขึ้นไปอีกว่า เกิดอะไรขึ้นในสังคมบ้านเรา?!?!?ข่าวชิ้นหลังนี้ เอ่ยถึงคนจำนวนหนึ่งที่อยากมีอยากสมหวังในความรัก ต่างแห่กันไปกราบไหว้บูชาขอพรจาก 'ตรีมูรติ' หุ่นเทวรูปฮินดู ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมศูนย์การค้า เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ตรงบริเวณสี่แยกราชประสงค์...พูดถึง 'ตรีมูรติ' หรือที่ชาวอินเดีย-ฮินดู ส่วนใหญ่เรียกกันในนาม 'ทัตตาเตรยะ (Dattatreya)' คือเทพปางใหม่ที่เกิดจากการผนวกรวมเป็นร่างเดียวกันของมหาเทพ 3 องค์ ได้แก่ พระพรหม-พระวิษณุ-พระศิวะ ฉะนั้นรูปบูชาจึงปรากฏออกมาในลักษณะที่มี 3 เศียร 6 กร (มือพระพรหม ถือดอกกุหลาบและคนโทน้ำ, มือพระวิษณุ ถือจักรและหอยสังข์, ส่วนมือพระศิวะ ถือบัณเฑาะว์และตรีศูล) ติดตามด้วยสุนัข 4 ตัว พร้อมกับพระโค โดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่เบื้องหลัง... - - ความศรัทธาโดยรวมของศาสนิกชนฮินดู เชื่อว่าเทพทัตตาเตรยะ คือผู้บันดาลความสุขสมบูรณ์แก่สรรพชีวิตบนโลก... : นี่คือภาพรวมๆ ของ ทัตตาเตรยะ หรือ ตรีมูรติ......กลับมาเรื่องวันวาเลนไทน์ - - ความที่บ้านเรากระเด็นไปตามกระแสตะวันตก เรื่องราวของ St. Valentine ผมคงไม่ต้องนำมาเล่ากันในที่นี้กระมัง ถึงที่มาที่ไปของ 'วันแห่งความรัก'.... และถึงผมจะไม่แน่ใจว่า สังคมโลกฟากตะวันตก จะคลั่งวันวาเลนไทน์กันแค่ไหน? แต่ผมก็มั่นใจอย่างยิ่งว่า ไม่เกี่ยวกับเทพ ตรีมูรติ แน่นอนและก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เทพฮินดูองค์นี้ เข้ามามีบทบาทในวันแห่งความรักของบ้านเรา ตั้งแต่เมื่อใดและอย่างไร?!?ที่แน่ๆ คือ - - ตอนนี้ มีคนไทยจำนวนไม่น้อยเชื่อกันว่า... ตรีมูรติ ตรงหัวมุมตึกเวิลด์เทรดฯ จะเข้าทรงเวลา 9:30 น. สำหรับกะเช้า ส่วนกะค่ำจะมาทำงานเวลา 21:30 น. อุปกรณ์เซ่นไหว้มาตรฐานประกอบด้วย -เทียนสีแดงหรือสีเหลือง 1 เล่ม, -ธูปสีแดง 9 ดอก, และ-พวงมาลัยดอกกุหลาบสีแดง, การขอพรก็ให้เขียนรายละเอียดในสิ่งที่ตนอยากได้ใคร่ครองลงไปบนกระดาษ แล้ววางไว้บนแท่นบูชา!.... ก่อนจะบริกรรมร่ายคาถา ความว่า......สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติอันยิ่งใหญ่ข้าพเจ้า (บอกชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของตน) กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว, พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย, ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทั้งหลาย, บัดนี้ข้าพเจ้าได้มากราบเบื้องบาทแด่พระองค์แล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้, เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงบังเกิดแด่ข้าพเจ้า, ตุมหากัง และจงบังเกิดแด่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้า, ทีฆายุกามหาราชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ภยันจะ ทวัตติงสะ ฉันนะวุฒิติโรคัญจะพ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ อันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พะวิสตีติ...ใช่... สังคมบ้านเรา มันเป็นกันถึงขั้นนี้แล้ว!!!......พูดถึงเรื่องความรัก...ลองคิดดู... ถ้า 'ความรัก' มิได้เกิดจากศรัทธา มิได้เกิดจากความเชื่อมั่น แต่เกิดจากความงมงายและอาศัยพึ่งไสยเวทย์ ...คนรักของคุณ จะเป็นคนประเภทไหน?...หรือว่า... เรื่องวันวาเลนไทน์ เป็นบริบทที่สะท้อนภาพรวมของบ้านเมืองเรา?!?!...
Post a Comment
<< Home
1 Comments:
ที่มา : เนชั่นสุดสัปดาห์
ปีที่ 13 ฉบับที่ 614 วันที่ 1 - 7 มี.ค. 2547
บันทึกจากข้างบาททาง / รอน แรมทาง
ความศรัทธา, ความเชื่อ, และความงมงาย
...'ศรัทธา'... - คือการเลื่อมใสเชื่อถือ...
...'ความเชื่อ'... - คือการเห็นด้วยอย่างปราศจากข้อกังขา...
...'ความงมงาย'... - คือการหลงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล...
และบ่อยครั้งที่... ความศรัทธา, ความเชื่อ, และความงมงาย . . . . ก็รวมตัวกันเข้าสิงอยู่ในจิตใจผู้คน!!!...
...ความจริง ไอ้วัน 'วาเลนไทน์' มันก็ล่วงเลยไปตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว - - กระนั้น ผมยังขัดข้องใจไม่หาย!
ย้อนความรู้สึกกลับไปสองสามวันก่อนหน้าจะถึงวันซึ่งอุปโลกน์กันว่าเป็น 'วันแห่งความรัก' - - ข่าวรายวันด้านหนึ่ง ก็เสนอเกี่ยวกับเรื่องในทำนองว่าจะป้องกันคุมเข้มเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวไม่ให้ 'สำแดงแสดงความรัก' กันเลยเถิดจนถึงขั้นเสพสมได้เสียกัน!, แต่ข่าวรายวันในเวลาไล่เลี่ยติดกัน ก็เสนอข่าวและมีการโฆษณาถึงการจัดงาน 'วันวาเลนไทน์' ซึ่งหลายสิบงาน จัดโดยหน่วยราชการระดับจังหวัดเกือบทั่วประเทศ!!!
มันอะไรกัน!?!?!
และยังมีเรื่องข่าว 'ตรีมูรติ' เข้ามาเกี่ยวข้องกับ 'วันแห่งความรัก' อีกข่าวหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกสงสัยหนักยิ่งขึ้นไปอีกว่า เกิดอะไรขึ้นในสังคมบ้านเรา?!?!?
ข่าวชิ้นหลังนี้ เอ่ยถึงคนจำนวนหนึ่งที่อยากมีอยากสมหวังในความรัก ต่างแห่กันไปกราบไหว้บูชาขอพรจาก 'ตรีมูรติ' หุ่นเทวรูปฮินดู ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมศูนย์การค้า เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ตรงบริเวณสี่แยกราชประสงค์
...พูดถึง 'ตรีมูรติ' หรือที่ชาวอินเดีย-ฮินดู ส่วนใหญ่เรียกกันในนาม 'ทัตตาเตรยะ (Dattatreya)' คือเทพปางใหม่ที่เกิดจากการผนวกรวมเป็นร่างเดียวกันของมหาเทพ 3 องค์ ได้แก่ พระพรหม-พระวิษณุ-พระศิวะ ฉะนั้นรูปบูชาจึงปรากฏออกมาในลักษณะที่มี 3 เศียร 6 กร (มือพระพรหม ถือดอกกุหลาบและคนโทน้ำ, มือพระวิษณุ ถือจักรและหอยสังข์, ส่วนมือพระศิวะ ถือบัณเฑาะว์และตรีศูล) ติดตามด้วยสุนัข 4 ตัว พร้อมกับพระโค โดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่เบื้องหลัง... - - ความศรัทธาโดยรวมของศาสนิกชนฮินดู เชื่อว่าเทพทัตตาเตรยะ คือผู้บันดาลความสุขสมบูรณ์แก่สรรพชีวิตบนโลก... : นี่คือภาพรวมๆ ของ ทัตตาเตรยะ หรือ ตรีมูรติ...
...กลับมาเรื่องวันวาเลนไทน์ - - ความที่บ้านเรากระเด็นไปตามกระแสตะวันตก เรื่องราวของ St. Valentine ผมคงไม่ต้องนำมาเล่ากันในที่นี้กระมัง ถึงที่มาที่ไปของ 'วันแห่งความรัก'.... และถึงผมจะไม่แน่ใจว่า สังคมโลกฟากตะวันตก จะคลั่งวันวาเลนไทน์กันแค่ไหน? แต่ผมก็มั่นใจอย่างยิ่งว่า ไม่เกี่ยวกับเทพ ตรีมูรติ แน่นอน
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เทพฮินดูองค์นี้ เข้ามามีบทบาทในวันแห่งความรักของบ้านเรา ตั้งแต่เมื่อใดและอย่างไร?!?
ที่แน่ๆ คือ - - ตอนนี้ มีคนไทยจำนวนไม่น้อยเชื่อกันว่า... ตรีมูรติ ตรงหัวมุมตึกเวิลด์เทรดฯ จะเข้าทรงเวลา 9:30 น. สำหรับกะเช้า ส่วนกะค่ำจะมาทำงานเวลา 21:30 น. อุปกรณ์เซ่นไหว้มาตรฐานประกอบด้วย -เทียนสีแดงหรือสีเหลือง 1 เล่ม, -ธูปสีแดง 9 ดอก, และ-พวงมาลัยดอกกุหลาบสีแดง, การขอพรก็ให้เขียนรายละเอียดในสิ่งที่ตนอยากได้ใคร่ครองลงไปบนกระดาษ แล้ววางไว้บนแท่นบูชา!.... ก่อนจะบริกรรมร่ายคาถา ความว่า...
...สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติอันยิ่งใหญ่ข้าพเจ้า (บอกชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของตน) กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว, พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย, ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทั้งหลาย, บัดนี้ข้าพเจ้าได้มากราบเบื้องบาทแด่พระองค์แล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้, เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงบังเกิดแด่ข้าพเจ้า, ตุมหากัง และจงบังเกิดแด่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้า, ทีฆายุกามหาราชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ภยันจะ ทวัตติงสะ ฉันนะวุฒิติโรคัญจะพ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ อันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พะวิสตีติ...
ใช่... สังคมบ้านเรา มันเป็นกันถึงขั้นนี้แล้ว!!!...
...พูดถึงเรื่องความรัก...
ลองคิดดู... ถ้า 'ความรัก' มิได้เกิดจากศรัทธา มิได้เกิดจากความเชื่อมั่น แต่เกิดจากความงมงายและอาศัยพึ่งไสยเวทย์ ...คนรักของคุณ จะเป็นคนประเภทไหน?...
หรือว่า... เรื่องวันวาเลนไทน์ เป็นบริบทที่สะท้อนภาพรวมของบ้านเมืองเรา?!?!...
Post a Comment
<< Home