- Wabi sabi working--doing what one loves and not overdoing it - Wabi sabi family life--treasuring family stories and turning off the TV - Wabi sabi eating--valuing the humble and familiar and savoring the exotic - Wabi sabi socializing--gleaning the lessons of the ancient tea ceremony - Wabi sabi creativity--enriching one's life by valuing individual moments
5 Comments:
- Wabi sabi working--doing what one loves and not overdoing it
- Wabi sabi family life--treasuring family stories and turning off the TV
- Wabi sabi eating--valuing the humble and familiar and savoring the exotic
- Wabi sabi socializing--gleaning the lessons of the ancient tea ceremony
- Wabi sabi creativity--enriching one's life by valuing individual moments
So called Wabi Sabi :)
ได้หนังสือ วะบิ ซะบิ มาจากร้านหนังสือทางเลือก ศึกษิตสยาม ซึ่งตั้งอยู่ ณ มุมเงียบสงบแห่งนึงของกรุงเทพมหานคร
อ่านแล้วหลงใหล คลั่งใคล้ ในจักรวาลหรือโลกทัศน์ของ วะบิ ซาบิ เป็นอย่างยิ่ง
ว่างๆ โอกาสดีๆ จะกลับมาแชร์กัน!
จะรอฟัง Wabi Sabi ... (คงไม่ใช่ Wasabi) ...
จนกว่าจะได้พบกันอีก
Nate...
คัดมา-
ขออนุญาตมาแบบทยอยๆ เราไม่รีบๆ เราค่อยๆ จิบ (ชา) :)
รากฐานเชิงอภิปรัชญา
สรรพสิ่งทั้งหลายกำลังแปรเปลี่ยนอย่างถดถอยไปสู่หรือไม่ก็กำลังวิวัฒน์มาจากความไม่มีอะไรเมื่อยามสนธยาเยื้องกรายเข้าสู่ท้องทุ่งชนบท ไกลห่างความเจริญ นักเดินทางคนหนึ่งครุ่นพินิจถึงการสร้างที่พำนักเพื่อซุกหัวนอนในตอนกลงคืน เขาสังเกตเห็นต้นหญ้าสูงขึ้นอยู่เต็มท้องทุ่ง ดังนั้นเขาจึงรวบใบของพวกมันเข้าในขณะที่โคนต้นยังยึดอยู่กับพื้นเช่นเดิม และผูกรวบเป็นปมไว้ที่ปลายยอด เพียงชั่วอึดใจมันก็กลายเป็นกระท่อมหญ้าที่มีชีวิต
ในยามเช้ารุ่งขึ้น ก่อนจะเริ่มเดินทางต่อไปอีกวันหนึ่ง เขาแก้ปมที่ผูกปลายยอดหญ้าออก ทันใดนั้นกระท่อมหญ้าก็ถอดรื้อตัวเอง กระท่อมหญ้าหายไปและกลับกลืนเป็นส่วนหนึ่งของท้องทุ่งหญ้าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองดูแล้วมิได้เห็นความแตกต่างไปจากเดิมแต่อย่างใด ดูประหนึ่งว่าความรกชัฏดั้งเดิมได้ถูกทำให้กลับคืนสภาพแล้ว ทว่าร่องรอยเล็กๆ น้อยๆ ของกระท่อมนั้นยังคงอยู่ รอยบิดหรืองอแต่เพียงน้อยของใบหญ้ายังปรากฏอยู่ ณ ที่ตรงนี้ และตรงนั้น และยังมีความทรงจำเกี่ยวกับกระท่อมหญ้าประทับอยู่ในใจของนักเดินทางคนนี้--และในใจของผู้อ่านที่กำลังอ่านบรรยายความนี้อยู่ (ว้าววววว เค้ารู้ได้ไงเนี่ยยย จริงๆๆ)
อันที่จริงแล้ว วะบิ-ซะบิในรูปที่บริสุทธิ์และเป็นอุดมคติที่สุดก็คือเรื่องราวของร่องรอยอันละเอียดอ่อนเหล่านี้ ร่องรอยหลักฐานอันเลือนรางเช่นนี้ ณ พรมแดนของความไม่มีอะไร
ขณะที่จักรวาล “รื้อ” มันก็ “สร้าง” ไปด้วยเช่นกัน สิ่งใหม่ๆ ปรากฏขึ้นจากความไม่มีอะไร แต่การสังเกตเพียงผิวเผินก็ไม่สามารถทำให้เราตัดสินได้ว่าสิ่งใดกำลังอยู่ในอาการวิวัฒน์ หรืออยู่ในอาการที่กำลังถดถอยกันแน่ และถ้าหากว่าเราไม่รู้ถึงความแตกต่างนี้แล้ว เราก็อาจเข้าใจผิดไปได้ว่าเด็กทารกที่เกิดใหม่ ที่ตัวเล็ก ยับย่น โค้งคด และออกจะแลดูพิลึกพิลั่นนั้นคือคนชราที่ใกล้จะเสียชีวิตเต็มที
ในการสื่อแสดงอกของ “วะบิ-ซาบิ” นั้น (โดยอาจไม่มีเหตุผลมารองรับ) พลวัตของการแปรเปลี่ยนถดถอยค่อนข้างจะปรากฏให้เห็นในสิ่งต่างๆ ที่มืดกว่า เข้มกว่าเล็กน้อย มืดมนมากกว่า และเงียบสงบ
สำหรับสิ่งต่างๆ ที่กำลังวิวัฒน์นั้นค่อนข้างจะเบากว่า จางกว่า และสว่างไสวกว่า แจ่มใสกว่าเล็กน้อย และเป็นที่ดึงดูดสายตามากกว่าเล็กน้อย และสำหรับความไม่มีอะไรเองนั้น—แทนที่จะเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่าดังเช่นที่คิดเห็นกันในโลกตะวันตก—ก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยโอกาสของความเป็นไปได้
หากจะกล่าวด้วยถ้อยคำในเชิงอภิปรัชญาแล้ว วะบิ-ซะบิชี้ให้เห็นว่าสากลจักรวาลอยู่ในสภาวะของการเคลื่อนไหวไปสู่หรือเคลื่อนออกจากศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อยู่เสมอ
Post a Comment
<< Home