The Power of Hugging
Let's hug!
When you are hugged, your body releases endorphins, which are chemicals that are released when your body feels great. Endorphins increase your resistance to disease and help diminish pain.Never underestimate the power of hugging, even if the other person does not seem to show its beneficial effects.
9 Comments:
พลังของการกอด
โดย ศ.ดร.น.พ.วิทยา นาควัชระ
ที่มา: นิตยสารดิฉัน
ผมได้รับเชิญจากบริษัท AIS ให้ไปบรรยายพิเศษในหัวข้อ “พลังครอบครัวถ่ายทอดได้ด้วยการกอด” ให้บรรดา พ่อ แม่ ลูก ประมาณ 500 คน ฟังที่ห้องประชุมโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
1. สิ่งสำคัญที่สุดของครอบครัว
คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดของครอบครัว?
บางคนบอกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พ่อ หรือแม่ หรือลูก หรือใบทะเบียนสมรส แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของครอบครัวคือความรัก และการแสดงความรักต่อคนในครอบครัว
ถ้าลำพังรู้สึกรัก แต่ไม่แสดงออกมาให้ประจักษ์ ก็ไม่มีค่าเท่าไร
ถ้าคนในครอบครัวสามารถมีความรักและแสดงความรักต่อกันได้ ผมถือว่าสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่จดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ตาม
2. พลังที่สำคัญที่สุดของครอบครัว
พลังที่สำคัญที่สุดของครอบครัวก็คือพลังของความรักนี่เอง
ความรักแสดงออกได้หลายทางที่ผมเคยกล่าวบ่อยๆ ก็คือ ให้แสดงออกทางการยิ้มแย้ม ทักทาย ชมเชย ช่วยเหลือกัน แต่การกอดเป็นภาษากายที่แสดงออกถึงความรักได้อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งละมุนละไมดีด้วย
คนในครอบครัวมักจะชินต่อการกอดเด็กๆ ด้วยความมันเขี้ยว (ซึ่งเด็กจะไม่ชอบเพราะเจ็บ) และการกอดคนรักยามจะมีเพศสัมพันธ์
แต่การกอดที่ผมจะกล่าวถึงนี้คือ “การโอบกอดด้วยความทะนุถนอม แสดงถึงความรักและเอื้ออาทร” ที่สามารถทำได้ทุกเวลา ต่อหน้าคนอื่นก็ได้ แต่หลายๆ คนทำไม่เป็น ไม่กล้าทำหรืออายที่จะทำกับคนรักของตนในยามปรกติทั่วไป
การกอดแบบนี้สำคัญมาก ที่จะให้พลังที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะพลังของการกอดก็คือพลังของความรักนี่เอง
3. ทำไมคนต้องการการกอด
เมื่อเราถูกกอดโดยคนรัก เราจะรู้สึกดังนี้
1. เป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญ
2. ได้รับพลังของความรัก ซึ่งความรักในความหมายของผมก็คือ ความเข้าใจ การยอมรับ ความเห็นอกเห็นใจ การช่วยเหลือ และการให้อภัยกัน
เมื่อมีการกอดกันดังกล่าว จะเป็นการถ่ายเทพลังของความรักตามความหมายดังกล่าวให้ซึ่งกันและกัน
ผู้กอดจะรู้สึกตัวเองมีค่า มีพลัง ถ่ายทอดไปให้ผู้ถูกกอด ซึ่งจะรู้สึกอบอุ่น และจะถ่ายทอดพลังรักตอบแทนผู้กอดด้วย
3. ลดความรู้สึกว้าเหว่ ขาดความรัก ขาดกำลังใจ ขาดมิตรภาพ
4. เวลาคนกอดกันได้สัมผัสอะไรบ้าง
ถ้ากอดกันอย่างที่ผมกล่าวถึง ทั้งคู่จะได้สัมผัสดังนี้
1. ได้สัมผัสทางกาย รู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย
2. ได้สัมผัสทางจิตใจ รู้สึกมีค่า ได้ความรัก ถูกรัก มีมิตรภาพดีๆ ต่อกัน รู้สึกดีๆ ต่อกัน
3. ได้สัมผัสทางจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคุณธรรม คือรู้สึกปรารถนาดีต่อกัน เมตตากัน อยากให้เขาโชคดี เป็นคนดี มีคุณค่า
5. เทคนิคการกอด แบบโอบกอด
การโอบกอดอย่างทะนุถนอมเพื่อแสดงความรักและความเอื้ออาทรนั้น ควรกอดกันหลวมๆ ในช่วงท่อนบน ไม่กอดรัดจนแน่น จับมือ บีบไหล่หรือตบไหล่เบาๆ ด้วยก็ได้ ส่วนช่วงท่อนล่างให้ห่างกันเอาไว้ ไม่ต้องถูกต้องแบบแนบสนิทหรือเสียดสีเพราะจะกลายเป็นการกอดแบบมีเซ็กส์ไป
ในขณะที่กอดกัน จะกล่าวคำพูดดีๆ ไปด้วยก็ได้ เช่น น่ารักจัง โชคดีนะ รักนะ :)
ถ้าลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว จากการกอดให้เปลี่ยนเป็นจับมือ หรือตบบ่าเบาๆ ก็ได้โดยเฉพาะในลูกที่คนละเพศกับพ่อแม่ แต่ถ้าเป็นพ่อแม่หรือคนรักกันแล้ว ให้กอดกันได้ตลอดไป...จนตายจากกัน
6. สร้างบรรยากาศดีๆ ส่งเสริมการกอด
ครอบครัวควรสร้างบรรยากาศของความรักและสร้างสรรค์ในครอบครัวร่วมไปด้วย จะทำให้อยากกอดกันมากขึ้น เช่น มีอารมณ์ขันที่ไม่โหดร้ายหรือลามก ไม่นินทาวิจารณ์คนอื่น เพราะจะทำให้อารมณ์เสีย ถ้าเป็นสามี ภรรยา กันให้ชมอีกฝ่ายว่าเซ็กซี่บ้าง
ถ้ามีลูกให้แยกลูกอยู่กับพี่เลี้ยง แล้วหาเวลาไปไหนกันตามลำพังสามี ภรรยาบ้างชื่นชมจุดเด่นซึ่งกันและกัน อย่าตำหนิกัน อย่าพูดปด อย่าหยิ่งเข้าหากัน กอดตอนเช้าๆ สดชื่นดี ดูแลคู่ครองอย่างคนสำคัญต่อหน้ากลุ่มเพื่อนหรือญาติ อย่าสอนคู่ครอง แต่จงใช้วิธีเสนอแนะหลังจากชมเขาแล้ว จงมีความซื่อสัตย์ไม่นอกใจกัน จะทำให้รักกันได้นานๆ
การกอดเป็นสิ่งดี แต่อาจจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทย ลองหัดทำโดยเริ่มจากจับมือและถูกตัวกันไปก่อน แล้วจะกล้ามากขึ้นจนกอดกันได้สนิทใจ จนอยากกอดกันทุกเช้าหรือทุกวัน
การกอดนี้เป็นการส่งเสริมความรักให้เติบโตงดงามขึ้น เสริมพลังดีๆ ให้แก่กันและกัน ทำให้อยากอยู่ด้วยกันนานๆ ตลอดไป
Where there is no love, there is no communication.
Hugs and love...solitary animal :)
ฮัก มี ด้วย น่ะ......
Ha ha ha !!!
อาคินเคต.
Hello,
Hug u K. SA.
Miss ya.,
Et CeTera!! ^o^
Post a Comment
<< Home