There are no coincidences in the universe.

Solitary Animal: Dear God

Sunday, June 11, 2006

Dear God



16 Comments:

Blogger solitary animal said...

ไปอ่านเจอกระทู้น่ารักๆ เป็นโน๊ตสั้นๆ ที่เด็กๆ เขียนถึง God อ่านไปยิ้มไป บางอันอ่านแล้วขำก๊ากส์เลย

คัดมาฝากกัน :)


ปล. ภาพธารน้ำนี้ ถ่ายจากบนสะพานในรูปข้างล่างนั่นเอง

Sunday, June 11, 2006 9:10:00 AM  
Blogger solitary animal said...

Dear God, Are you really invisible or is that just a trick?… Lucy
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ท่านล่องหนได้จริงๆ หรือว่าแค่เล่นกลคะ...จาก ลูซี่

Dear God, I want to be just like my daddy when I get big but not with so much hair all over… Sam
พระผู้เป็นเจ้าครับ, เมื่อผมโตขึ้นผมอยากเหมือนพ่อผม แต่ว่าไม่เอาขนขึ้นทั้งตัวเยอะขนาดนั้นนะครับ...จาก แซม
(อันนี้ก็ฮา)

Dear God, Did you mean for giraffe to look like that or was it an accident?... Norma
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ท่านตั้งใจให้ยีราฟรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือว่ามันเป็นอุบัติเหตุกันแน่คะ...จาก นอร์ม่า

Dear God, I keep waiting for Spring but it never come yet. Don’t forget… Mark
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ผมรอฤดูใบไม้ผลิมาตลอดเลยแต่มันยังไม่มาซะที...ท่านอย่าลืมนะครับ....จาก มาร์ค

Dear God, Instead of letting people die and having to make new ones. Why don’t you just keep the ones you got now?... Jane
พระผู้เป็นเจ้าคะ, แทนที่จะให้ผู้คนตายแล้วก็มีคนใหม่เกิดมา ทำไมท่านไม่ให้ผู้คนที่ท่านมีอยู่แล้วอยู่ไปเรื่อยๆ ล่ะคะ....จาก เจน

Dear God, You don’t have to worry about me. I always look both ways... Dean
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ท่านไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ ผมมองซ้ายมองขวาเสมอ....จาก ดีน
(ข้อนี้ อาจอยู่ 2 รอบค่ะ งงๆ ว่าเด็กเค้าหมายถึงอะไร เดาว่าคงตอนข้ามถนน)

Dear God, I went to this wedding and they kissed right in church. Is that OK?... Neil
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ผมไปงานแต่งงานมาแล้วเค้าก็จูบกันในโบสถ์เลย มันโอเคเหรอครับนั่น ... จาก Neil
(คาดว่าคือบ่าวสาว)

Dear God, I think the staple is one of your greatest invention… Ruth M.
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ผมว่าที่เย็บกระดาษเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของท่านเลยครับ... จาก รูธ

Dear God, In bible times did they really talk about fancy?... Gennifer
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ตอนยุคของท่านสมัยโน้น เค้าคุยกับเรื่องเพ้อฝันจริงๆ เหรอคะ... จาก เจนนิเฟอร์
(ไม่รู้จะแปล bible time กับ fancy ว่าอะไรดีน่ะค่ะ...แนวๆ นี้แหละ)

Dear God, I think about you sometimes even when I’m not praying… Elliott
พระผู้เป็นเจ้าครับ, บางทีตอนผมไม่ได้สวดมนต์อยู่ ผมก็นึกถึงท่านบ้างเหมือนกันนะครับ...จาก อิลลิท

Dear God, I am American. What are you? …Robert
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ผมเป็นคนอเมริกัน แล้วท่านเป็นคนชาติไหนครับ.... จาก โรเบิร์ท
(อันนี้ตอนอ่านปุ๊บ ได้อารมณ์ประมาณเหมือนเด็กซ่าๆ แบบว่า “หวัดดี ผมน่ะคนอเมริกัน แล้วท่านคนชาติไหนเนี่ย”)

Dear God, I bet it’s really hard for you to love all every body in the whole world. There are only 4 people in our family. I can never do it. ..Nan
พระผู้เป็นเจ้าคะ, หนูพนันได้เลยว่ามันต้องยากมากๆ ที่พระองค์จะรักทุกคนบนโลกใบนี้ เพราะขนาดว่าครอบครัวหนูมีแค่ 4 คน หนูยังทำไม่เคยได้เลยค่ะ...จาก แนน

Sunday, June 11, 2006 9:12:00 AM  
Blogger solitary animal said...

Dear God, Thank you for the baby brother but what I prayed for was a puppy… Joyce
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ขอบคุณสำหรับน้องชายตัวเล็กๆ นะคะ แต่ว่าที่หนูอธิฐานขอน่ะ หนูอยากได้ลูกหมาค่ะ....จาก จอย์ส
(ก๊ากกส์ :D)

Dear God, Please put another holiday between Christmas and Easter. There is nothing good in there now… Ginny
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ช่วยใส่วันหยุดระหว่างวันคริสมาสต์กับอีสเตอร์ให้หน่อยนะคะ เพราะช่วงนั้นไม่เห็นมีอะไรดีเลยค่ะ...จาก จินนี่

Dear God, If you watch in church on Sunday, I will show you my new shoes… Mickey D.
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ถ้าพระองค์มองลงมาในโบสถ์วันอาทิตย์ หนูจะอวดรองเท้าคู่ใหม่ให้ดูค่ะ...จาก มิกกี้

Dear God, If we come back as something, please don’t let me be Jennifer Horton because I hate her… Denise
พระผู้เป็นเจ้าคะ, ถ้าพวกเราต้องกลับมาบนโลกอีกรอบ โปรดอย่าให้หนูเป็น เจนนิเฟอร์ ฮอร์ตัน นะคะ เพราะหนูเกลียดเธอ จาก... เดนิส
(ไม่แน่ใจว่าเธอคนนั้นคือดาราหรือเพื่อนร่วมห้อง)

Dear God, I would like to live 900 years like the guy in the bible, Love… Chris
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ผมอยากมีชีวิตอยู่ได้ 900 ปีอย่างคนนึงในคัมภีร์ใบเบิ้ลนะครับ... รัก คริส

Dear God, If you give me genie lamp like Alladin, I will give you anything you want except my money or my chess set… Raphael
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ถ้าพระองค์ให้ตะเกียงวิเศษจินี่เหมือนของอัลลาดินกับผม ผมจะให้ทุกอย่างที่ท่านต้องการเลย ยกเว้นเงินผมแล้วก็ชุดหมากรุกของผม.. จาก ราแฟล

Dear God, We read Thos. Ed made light. But in Sun school they said you did it. So I bet he stole your idea, Sincerely… Donna
พระผู้เป็นเจ้าคะ, พวกเราอ่านเจอว่า โธมัส เอดิสัน สร้างแสงสว่าง แต่ว่าที่โรงเรียนวันอาทิตย์ เค้าบอกว่าพระองค์เป็นคนสร้าง เนี่ยหนูพนันเลยว่าคุณโธมัสขโมยความคิดท่านแน่ๆ...ด้วยความนับถือ ดอนน่า
(อันนี้คาดว่าคงสับสนระหว่างหลอดไฟ กับ แสงอาทิตย์ 555)

Dear God, Please send Dennis Clark to a different camp this year… Peter
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ปีนี้ได้โปรดส่ง เดนนิส คลาร์ค ไปอยู่แคมป์อื่นนะฮะ...จาก ปีเตอร์
(สงสัยไปเข้าค่ายปีที่แล้วเจ้า เดนนิส มารังแกน้องปีเตอร์แน่ๆ)

Dear God, If you let the dinosaur not extinct we would not have a country. You did the right thing… Jonathan
พระผู้เป็นเจ้าครับ, นี่ถ้าท่านให้ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่ พวกเราคงไม่มีประเทศอยู่แน่ๆ ท่านทำถูกแล้วล่ะ...จาก โจนาธาน

Dear God, Maybe Cain and Abel would not kill each so much if they had their own room. It works with my brother… Larry
พระผู้เป็นเจ้าครับ, บางทีเคนกับเอเบลคงไม่ทะเลาะกันมากมายขนาดนี้ถ้าต่างคนต่างมีห้องของตัวเอง เพราะมันใช้ได้ผลเลยครับระหว่างผมกับพี่ชายผม... จาก ลาร์รี่

Dear God, I do not think anybody could be a better God. Well I just want you to know but I’m not just saying that because you are God… Charks
พระผู้เป็นเจ้าครับ, ผมไม่คิดว่าจะมีใครเป็นพระผู้เป็นเจ้าได้ดีเท่าพระองค์อีกแล้ว ผมแค่อยากให้ทราบเฉยๆนะฮะ แล้วผมก็ไม่ได้พูดเพียงเพราะท่านเป็นพระผุ้เป็นเจ้านะฮะ....จาก ชาร์คส์
(อันนี้สงสัยกลัวโดนว่าว่าประจบ :))

Sunday, June 11, 2006 9:15:00 AM  
Blogger solitary animal said...

อยากให้เด็กๆ หรือวัยรุ่นไทยทุกคนได้อ่านหนังสือ Conversations With God for Teens จังเลย


พับผ่าสิ! เดี๋ยวแปลขายเองซะเลยนี่ (ฮา)
ว่าแต่จะแปลเสร็จทันวินกะตินตินโตเป็นวัยรุ่นมั๊ยเนี่ยะ

:)

Sunday, June 11, 2006 9:19:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

อ่านจบ ...

มีรอยยิ้ม ... ติดไว้ที่มุมปาก...


OCT.ComRade ...

Sunday, June 11, 2006 1:32:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

แปลเลย แปลเลย อยากอ่าน

Monday, June 12, 2006 2:00:00 AM  
Blogger solitary animal said...

นานนะ...




























(แค่จะพิมพ์ comment นี้ยังคิดอยู่ตั้งนาน)

Monday, June 12, 2006 4:09:00 PM  
Anonymous Anonymous said...

เ ชื่ อ







แ ล้ ว







จ้ า

Monday, June 12, 2006 7:46:00 PM  
Blogger solitary animal said...

wow, someone who believes in me ?



;)

Tuesday, June 13, 2006 8:02:00 AM  
Blogger solitary animal said...

พระผู้เป็นเจ้าคะ, เมื่อวานหนูเกิดอาการน๊อตหลวมในที่ทำงาน พลันหนูก็รู้สึกว่ามันยากมากๆ เลยที่จะรักทุกคนบนโลกนี้

ปล. เจอแต่เรื่องเฟคๆ คนเฟคๆ ในที่ทำงาน หนูเลยต้องเฟคสู้ค่ะ :)

Wednesday, June 14, 2006 9:43:00 AM  
Blogger solitary animal said...

โอ๊ะๆ ได้ยินเสียงใครตะโกนมาสำทับอีกแล้ววว



อ๋อๆๆ



เมโลดราม่า



:)

Wednesday, June 14, 2006 9:46:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

เคยรู้สึกเบื่อหน่ายคนรอบข้าง จนไม่อยากจะเจอใคร ไม่อยากจะคุยกับใครเหมือนกัน

เลยอยากให้คุณ solitary animal ได้อ่านบทความนี้เช่นกัน เป็นบทความที่ชอบมากๆ ไว้เตือนตัวเองทุกทีที่เกิดอาการแบบนี้



ดวงตาปีศาจ - โดย กระบี่ไม้ไผ่

ไม่ใช่คนตายเท่านั้นที่มีกลิ่นเหม็น บางครั้งบางคราวคนเป็นๆก็ชวนคลื่นเหียนได้ไม่แพ้กัน

กลิ่นเน่าเหม็นของคนเป็นนั้น มักเกาะเกี่ยวมากับภาวะเสียสมดุลระหว่างปฏิสัมพันธ์ภายนอกกับภายใน เมื่อมันปะทุขึ้นมามันจะเกาะกุมอยู่ในทุกอณูรอบข้าง มันเกิดขึ้นเหมือนฤดูกาลที่ผิดฟ้าผิดฝน

มันโผล่พรวดมาโดยไม่บอกเค้าลาง เป็นไปได้ว่าจะก่อตัวจากตาพิเศษที่มักชอนไชไปพบเห็นร่องรอยการดำเนินจิตของคนรอบข้าง บางครั้งเป็นเรื่องของความไม่น่ารัก บางคราวเป็นเรื่องไม่มีน้ำใจ บ้างไม่รักษาคำพูด หรือแม้แต่ความคับแคบ มองอะไรไม่พ้นตัว ฯลฯ

ภาวะเช่นนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าหดหัวเข้าไปอยู่ในกระดองสักระยะ เพื่อแต่งเขี้ยวลบงาไม่ให้ยื่นออกไปแทงคนอื่น และเฝ้าระวังไม่ให้กลิ่นนั้นมาสร้างมายาคติ ทำให้ตนเองเป็นเจ้าคนดี มีอัตตาและทิฐิมานะหนาขึ้น

เรื่องต่างๆมันไม่ได้น่าเกลียดจนเกินทน เพราะถ้าไม่มัวแต่จ้องมองคนอื่น ถึงที่สุดแล้ว ถ้าเอาดีไม่ได้ เราต่างก็มีหางโผล่ออกมาด้วยกันทั้งนั้น

เรื่องเล่าจากพระรูปหนึ่งแวบขึ้นมาในห้วงคิดคำนึง พระไพศาล วิสาโล บอกว่าคนเราอยู่ด้วยกันแต่ไม่ค่อยรู้จักกัน

ท่านว่าครั้ง น.พ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ เป็นนักเรียนแพทย์ หมอไม่ค่อยได้เข้าเรียนเพราะมัวแต่ไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม ตาปีศาจทำให้หมอรู้สึกว่า ทำไมเพื่อนบางคนเอาแต่เรียน ไม่นึกถึงความเป็นไปของสังคมและบ้านเมืองบ้าง

กระทั่งวันหนึ่งจึงรู้ว่า เมื่ออาจารย์ขานเรียก 'โกมาตร' ในห้องเรียน แล้วมีคนขานรับว่า 'ครับ' โดยที่ตัวหมอเองไม่ได้อยู่ในชั้น และเสียงนั้นมาจากเพื่อนที่อยู่แต่ในห้องเรียนคนนั้นเอง ซ้ำเมื่อถึงคิวที่อาจารย์เรียกชื่อ นักเรียนแพทย์หนุ่มผู้นั้น เขากลับนิ่งเงียบไม่แสดงตัว

เมื่อได้โอกาสหมอจึงถามเพื่อนคนนั้นว่า ทำไมคุณถึงขานชื่อแทน เพื่อนนักเรียนแพทย์ผู้นั้นตอบว่า 'ผมไม่มีโอกาส ไม่สามารถเสียสละได้เท่าคุณ ผมทำได้แต่เพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆแทนคุณ ผมก็ทำเพื่อสิ่งนั้น'

คำตอบนั้น ทำให้ตาปีศาจคู่หนึ่งดับวูบ นับแต่บัดนั้น โลกที่นายแพทย์โกมาตรมองเห็นก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ถ้ายังเอาดีไม่ได้ ย่อมมีบ้างบางครั้งที่เราเองก็ไม่น่ารัก ไม่มีน้ำใจ ผิดคำพูด หรือแม้แต่ความคับแคบ มองอะไรไม่พ้นตัว

รัก เวทนา เมตตาให้ยิ่งๆขึ้น ไม่ต้องมองใจคนอื่น มองให้เห็นแต่ใจตัวเอง ตาปีศาจก็มิอาจงอกเงย

แล้วฤดูกาลที่ผิดเพี้ยนก็จะผ่านเลยไป...

-Hina-

Wednesday, June 14, 2006 10:28:00 PM  
Blogger solitary animal said...

ขอบคุณมากๆ เลยคุณ Hina :)




(เด็กอาร์เซลนอลใช่มั๊ยเนี่ยะ ฮ่าๆๆ เดาถูกมั๊ยเนี่ย เผอิญว่าพอเห็นชื่อกระบี่ไม้ไผ่ ก็แว้บบบมาเลยอ่ะ)


ขอบคุณอีกครั้งเน้อ เป็นบทความที่ไว้เตือนตัวเองที่ดีมากเลยจ้า :)

Thursday, June 15, 2006 7:59:00 AM  
Anonymous Anonymous said...

Hi! Just want to say what a nice site. Bye, see you soon.
»

Thursday, July 20, 2006 1:39:00 AM  
Blogger usa said...

Thanks k. Hina too. :)

ไม่ต้องมองใจคนอื่น มองให้เห็นแต่ใจตัวเอง ตาปีศาจก็มิอาจงอกเงย

Friday, July 21, 2006 12:32:00 AM  
Blogger oneness said...

น่ารักดีนะ
เชียให้แปล conversation with god for teenด้วยคน

Thursday, December 31, 2009 3:16:00 PM  

Post a Comment

<< Home

Gabu on Facebook