ตั้งใจจะกลับมาแชร์แง่มุมเกี่ยวกับ Marriage ในหนังสือที่ทรงอิทธิพลทางความรู้สึกของตัวเองมากๆ ในปัจจุบัน - CWG Book 3 แต่...เมื่อวานดันเจอประชุมมาราธอนเสียนี่!
เคยดูหนังเรื่องนึง นางเอกพูดประมาณว่า "Nobody understands when a woman makes a choice...to marry and have children--in one way--her life begins, but in another way, it stops"
ขอคัดลอกบางส่วนใน CWG Book 3 ที่เกียวกับ Marriage มาแชร์ที่นีสักเล็กน้อย!
The institution you call marriage is your attempt to create security, as is the instition called government. Actually, they are both forms of the same thing--artificial social constructions designed to govern each other's behavior.
Love has no requirements. That's what makes it love.
If your love for another carries requirements, then it is not love at all, but some counterfeit version.
Within the context of marriage, for example, there is an exchange of vows that love does not require. Yet you require them, because you do not know what love is. And so you make each other promise what love would never ask.
16 Comments:
เท่าที่จำได้หนังเรื่องนี้ ไม่มีฉากแต่งงานของพระเอกกะนางเอก...ใช่มั๊ย? หนังไม่ได้กล่าวถึง แต่คนดูรู้ว่าทั้งคู่ตกลงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยที่ครอบครัวของนางเอกไม่ยอมรับพระเอกซึ่งเป็นคนยิว
ไม่มีอะไรหรอก พอดีว่า...(ขอเม้าท์ๆ) เมื่อคืนนี้ไปงานแต่งงานของน้องที่ทำงานคนนึง (ปีนี้ได้รับการ์ดแต่งงานเยอะจิงจิง)ที่โรงแรมโนโวเทล สุขุมวิท ตอนที่เจ้านายของน้องคนนี้ขึ้นไปกล่าวอวยพรน่ะ เค้าบอกว่าให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าแขกที่มาร่วมงาน 3 ข้อดังนี้ บลาบลาบลา ฯลฯ
พลันนึกถึง CWG Book 3 ขึ้นมาทันที
เด๋วมาต่อ...
นั่นดิ ปีนี้ไมได้รับการ์ดแต่งงานแยะ จริง ๆ
เอ เมื่อไรจะได้ของคุณ SA นะ
จะรอเน้ออออ ^____^
Have a G'Day
คุณ etc. คงรอเก้อแล้วละ เพราะคุณ S.A.เธอเคยบ่นเวลาเห็นความวุ่นวายของครอบครัวพี่ๆ น้องๆ ว่า
....ฉันจะไม่มีแฟน ฉันจะไม่มีลูก.....
พวกเราพี่ๆ ก็รอๆ ดูอยู่เหมือนกันว่า คุณเธอจะประคับประคองความโสดไปอีกนานแค่ไหน
จาก...คุณป้าข้างบ้าน
เอิ้กๆๆ ... จริงดิ !
R.Clintcaid
ตั้งใจจะกลับมาแชร์แง่มุมเกี่ยวกับ Marriage ในหนังสือที่ทรงอิทธิพลทางความรู้สึกของตัวเองมากๆ ในปัจจุบัน - CWG Book 3 แต่...เมื่อวานดันเจอประชุมมาราธอนเสียนี่!
ส่วนที่คุณป้าข้างบ้านกล่าวมานั้น สงสัยว่าเราคงจะพูดตอนกำลังแฮงค์น่ะ ฮ่าๆๆ จะเอามายึดมั่นถือมั่นเป็นสรณะไม่ได้นะ แหม...คุณป้า ทำเอาเราเกือบเสีย self แน่ะ :)
จะต้องรีบไปเข้าค่ายอิงลิชแคมป์หมีน้อยเป็นเวลา 2 วันแล้ว...ยังไงจะกลับมาแชร์แง่มุมเกี่ยวกับการแต่งงานให้ฟังในไม่ช้านี้ ASAP!
โอ๊ะ ค่ายอิงลิชหมีน้อย
ฟังแล้วท่าจะหนุก! ^___^
Have a nice day...
อ้าว คุณ ป้าข้างบ้าน
คุณ SA ปฏิเสธเสียงแข็งแล้ว
งั้น ข้าพเจ้าคงจะได้ไปร่วมงานคุณ SA ซูนนนนนน อะดิ
อ้าว คนรู้ใจคุณ SA
ได้ยินคำตอบคุณ SA แล้ว เตรียมการ ด่วนนนนนคับทั่น ไม่งั้น เดี๋ยวคุณ SA จะเปลี่ยนใจไม่รู้นะ
^______^
Take care ทุกท่าน
Hi guys! I'm back from English Camp ja :)
คุณ Etc - ถ้าวาระนั้นมาถึงเราเมื่อไหร่ จะแจ้งคุณ Etc อย่างแน่นอน ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววทั้งสิ้น คุณ Etc ก็เช่นกันนะ...ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่าใครๆ ก็หวงชีวิตโสดกันทั้งนั้นเลยอ่ะ จริงมั๊ย?
ก็นี่งัย...เป็นโสดสนุก ลุกนั่งสบาย
เคยดูหนังเรื่องนึง นางเอกพูดประมาณว่า "Nobody understands when a woman makes a choice...to marry and have children--in one way--her life begins, but in another way, it stops"
แหม...นางเอกคนนี้พูดจาสองแง่สองง่าม แต่น่าคิดนะ :)
ขอคัดลอกบางส่วนใน CWG Book 3 ที่เกียวกับ Marriage มาแชร์ที่นีสักเล็กน้อย!
The institution you call marriage is your attempt to create security, as is the instition called government. Actually, they are both forms of the same thing--artificial social constructions designed to govern each other's behavior.
If marriage allowed you to be unlimited, eternal, and free in your love, then it would be the ultimate announcement of love.
As things are now, you become married in an effort to lower your love to the level of a promise or a guarantee.
ในหนังสือเล่มนี้ เค้าพูดว่ามนุษย์เรามีสิ่งที่เรียกว่าเป็น Cultural Myth น่ะ
Love has no requirements. That's what makes it love.
If your love for another carries requirements, then it is not love at all, but some counterfeit version.
Within the context of marriage, for example, there is an exchange of vows that love does not require. Yet you require them, because you do not know what love is. And so you make each other promise what love would never ask.
เราชอบมากหนังสือเล่มนี้ ชอบตั้งแต่ Book 1
เป็นหนังสือที่เรียกได้ว่า Breakthrough เลยล่ะ สำหรับตัวเราเองอ่ะนะ แล้วเราก็มักหยิบมา re-read บ่อยๆ สร้างกำลังใจให้ตัวเองงัย :)
วันก่อนหยิบ Life is Beautiful มานั่งดูอีกรอบ...รู้สึกดีจังเลยอ่ะ :)
"นี่คือเรื่องราวง่ายๆ
แต่ไม่ง่ายเลยที่จะเล่า
ดั่งนิทาน มันมีส่วนที่เศร้า
และดั่งนิทาน มีส่วนที่มหัศจรรย์และสุขสม"
กุยโดกะดอร่า ไม่เห็นต้องแต่งงาน สัญญิงสัญญาต่อหน้าใครเลยนิ (อันนี้ ไม่ใช่ประเด็นหลักของหนังหรอกนะ แต่ไม่รู้เป็นไร พยายามจะเชื่อมโยง...ฮิฮิ)
อีก 2 อาทิตย์ต้องไปงานแต่งงานคนที่ Office อีกแล้ว แฮ่ะๆ -_-'
ไหนๆ ก็อ้างถึง CWG แล้ว...อยากบอกว่าConversations with God เป็นหนังสือที่ทุกคนควรได้อ่านค่ะ ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาใดก็ตาม!
เออ เห็นด้วย อะคุณ SA
ข้าพเจ้าก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หวงแหน "ชีวิต..โสดดดดด"
@^___^@
บางวันก็อยากมีใครสักคนมาพูดคุยอยู่ใกล้ๆ อ่านกวีให้ฟัง (แหวะ) แต่บางวันก็อยากแบบว่า...ขออยู่เงียบๆ คนเดียวได้มั๊ยยยย...เบื่อออออจังเฟ้ยยยย
นี่แหละน้า...มนุษย์ปุถุชน! ยุบหนอพองหนอ! ฟูมฟายไปก็เท่านั้น โลกที่เราเห็นเป็นแค่ภาพลวงตา เนื้อหนังมังสาเดี๋ยวมันก็เหี่ยว จริงๆ มันก็แค่รูปทรงแสงเงา...เท่านั้นเองนิ
เฮ้อ...วันนี้เป็นไรเนี่ยะเรา :)
Post a Comment
<< Home