There are no coincidences in the universe.
Existing, living, or going without others; alone
View my complete profile
posted by solitary animal @ 1:39 PM
จริงๆๆๆๆๆๆๆๆอาคินเคด...
...ชีวิตเหมือนกับการเดินทางในยานพาหนะที่ไปตามเส้นทางซึ่งอยู่ระหว่างการเกิดและการตาย ร่างกายก็คือยานพาหนะที่ตัวเธอกำลังขับไปสู่ความตาย ยิ่งเธอมีสัมภาระน้อยเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นการดีสำหรับเธอมากเท่านั้นแล้วทำไมเธอจะต้องถ่วงตัวเธอด้วยการแบกเอาความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ หรือเครื่องอำนวยความสะดวกที่ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินติดตัวไปให้เกะกะเปล่าๆ ด้วยเล่า?
เพราะในการเดินทางนั้น เธออาจจะต้องเปลี่ยนยานพาหนะหรือเปลี่ยนเส้นทางบ้าง ไปลงผิดที่หมายบ้าง หรืออาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนๆ ก็ตาม เมื่อเธอไปถึงจุดหมายปลายทางคือความตายแล้ว เธอก็ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสมบัติของเธอไว้เบื้องหลัง จะคงก็เหลือแต่อาตมัน (ตัวตนที่แท้จริง) ของเธอเท่านั้น เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เธอควรจะแสวงหาสภาวะอันเป็นอมตะไม่ดีกว่าหรือ? แล้วทำไมจะต้องมัวสูญเสียเวลาไปกับการแสวงหาความร่ำรวยและความสนุกสนานเพลิดเพลินๆ ไปวันๆ ? นี่คือหลักการทางจิตวิญญาณ ที่ฉันใช้เปลี่ยนทัศนติของผู้คนGod lives in India - พบพระเจ้าที่อินเดีย
ลึกซึ้งๆๆๆเอาอีก..." มา ราด รด ให้ คน รุ่ม ร้อน ... "อาคินเคด ...:)
10 พิจิก 34คุณรู้สึกตัวเองเป็นดุจดังหอยทากตัวเล็กๆ ซึ่งต้องแบกกระดองอันหนักของตน คืบคลานไปทีละน้อยบนขุนเขาอันยิ่งใหญ่ กระดองนั้นยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกหนักหน่วงขึ้นทุกขณะ แต่มันกลับเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่อาจสลัดทิ้งได้ กระดองนั้นก็คือสัมภาระของนักเดินทาง ซึ่งยิ่งเดินทางไปไกลก็ยิ่งรู้สึกว่าทุกสิ่งที่มีอยู่เกินความจำเป็น คุณอยากจะหยิบข้าวของที่มีอยู่โยนทิ้งไปที่ละชิ้นจนเหลือแต่ตัวเปล่าๆ ทว่า คุณกลับทำได้เพียงลดทอนข้าวของสัมภาระให้น้อยที่สุดเหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้นนี่คือข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของการเดินทางด้วยเท้า มันสอนใจคุณถึงบทเรียนบางอย่างซึ่งอาจเข้าใจได้ยากยิ่งในยามปกติ มันทำให้คุณต้องหวนกลับไปทบทวนชีวิตเสียใหม่ตั้งแต่ต้นจนปลาย ว่าเราได้สั่งสมมามากเพียงใดในชีวิต ทั้งในทางวัตถุและทางนามธรรมฝ่ายโลก เราได้แบกน้ำหนักไว้บนสองบ่ามากเพียงใดแล้วเรามนุษย์ทุกคนคือหอยทากแห่งกาลเวลา ซึ่งกำลังไต่คืบคลานไปบนขุนเขาแห่งอมตภาพอันยิ่งใหญ่มุ่งสู่ความขาวของหิมะ – พจนา จันทรสันติ
ข้าพเจ้าตัวใหญ่ ขอเป็นเต่าแล้วกันแบกสัมภาระแยะ อยากทิ้งลงข้างทางเหมือนกันแต่ด้วยความกลัวกับอนาคตที่ยังไม่ถึง ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เลยจำเป็นต้องแบกมันต่อไปรอวันปลดปล่อย............แล้วโบยบินไปบนท้องฟ้า
Post a Comment
<< Home
6 Comments:
จริงๆๆๆๆๆๆๆๆ
อาคินเคด...
...
ชีวิตเหมือนกับการเดินทางในยานพาหนะที่ไปตามเส้นทางซึ่งอยู่ระหว่างการเกิดและการตาย ร่างกายก็คือยานพาหนะที่ตัวเธอกำลังขับไปสู่ความตาย ยิ่งเธอมีสัมภาระน้อยเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นการดีสำหรับเธอมากเท่านั้น
แล้วทำไมเธอจะต้องถ่วงตัวเธอด้วยการแบกเอาความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ หรือเครื่องอำนวยความสะดวกที่ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินติดตัวไปให้เกะกะเปล่าๆ ด้วยเล่า?
เพราะในการเดินทางนั้น เธออาจจะต้องเปลี่ยนยานพาหนะหรือเปลี่ยนเส้นทางบ้าง ไปลงผิดที่หมายบ้าง หรืออาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนๆ ก็ตาม เมื่อเธอไปถึงจุดหมายปลายทางคือความตายแล้ว เธอก็ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสมบัติของเธอไว้เบื้องหลัง จะคงก็เหลือแต่อาตมัน (ตัวตนที่แท้จริง) ของเธอเท่านั้น เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เธอควรจะแสวงหาสภาวะอันเป็นอมตะไม่ดีกว่าหรือ? แล้วทำไมจะต้องมัวสูญเสียเวลาไปกับการแสวงหาความร่ำรวยและความสนุกสนานเพลิดเพลินๆ ไปวันๆ ? นี่คือหลักการทางจิตวิญญาณ ที่ฉันใช้เปลี่ยนทัศนติของผู้คน
God lives in India - พบพระเจ้าที่อินเดีย
ลึกซึ้งๆๆๆ
เอาอีก...
" มา ราด รด ให้ คน รุ่ม ร้อน ... "
อาคินเคด ...
:)
10 พิจิก 34
คุณรู้สึกตัวเองเป็นดุจดังหอยทากตัวเล็กๆ ซึ่งต้องแบกกระดองอันหนักของตน คืบคลานไปทีละน้อยบนขุนเขาอันยิ่งใหญ่ กระดองนั้นยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกหนักหน่วงขึ้นทุกขณะ แต่มันกลับเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่อาจสลัดทิ้งได้ กระดองนั้นก็คือสัมภาระของนักเดินทาง ซึ่งยิ่งเดินทางไปไกลก็ยิ่งรู้สึกว่าทุกสิ่งที่มีอยู่เกินความจำเป็น คุณอยากจะหยิบข้าวของที่มีอยู่โยนทิ้งไปที่ละชิ้นจนเหลือแต่ตัวเปล่าๆ ทว่า คุณกลับทำได้เพียงลดทอนข้าวของสัมภาระให้น้อยที่สุดเหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
นี่คือข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของการเดินทางด้วยเท้า มันสอนใจคุณถึงบทเรียนบางอย่างซึ่งอาจเข้าใจได้ยากยิ่งในยามปกติ มันทำให้คุณต้องหวนกลับไปทบทวนชีวิตเสียใหม่ตั้งแต่ต้นจนปลาย ว่าเราได้สั่งสมมามากเพียงใดในชีวิต ทั้งในทางวัตถุและทางนามธรรมฝ่ายโลก เราได้แบกน้ำหนักไว้บนสองบ่ามากเพียงใดแล้ว
เรามนุษย์ทุกคนคือหอยทากแห่งกาลเวลา ซึ่งกำลังไต่คืบคลานไปบนขุนเขาแห่งอมตภาพอันยิ่งใหญ่
มุ่งสู่ความขาวของหิมะ – พจนา จันทรสันติ
ข้าพเจ้าตัวใหญ่ ขอเป็นเต่าแล้วกัน
แบกสัมภาระแยะ อยากทิ้งลงข้างทางเหมือนกัน
แต่ด้วยความกลัวกับอนาคตที่ยังไม่ถึง ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เลยจำเป็นต้องแบกมันต่อไป
รอวันปลดปล่อย............
แล้วโบยบินไปบนท้องฟ้า
Post a Comment
<< Home